วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

สัญลักษณ์ Flowchart

สัญลักษณ์ Flowchart

สัญลักษณ์ Flowchart
คือ รูปภาพที่ใช้แทนความหมายการทำงานในลักษณะต่างๆ ภายในผังงาน (Flowchart) 
ซึ่งประกอบไปด้วย การเริ่มต้น (Start), การจบ (End), การกระทำ (Process), การนำเข้าข้อมูล (Input), การแสดงผลข้อมูล (Output), การตัดสินใจ (Decision), คำอธิบาย (Annotation), จุดเชื่อมต่อ (Connector), ทิศทางการทำงาน (Direction Flow) 
สัญลักษณ์เหล่านี้เมื่อถูกนำมาเชื่อมต่อกัน จะกลายเป็น "ผังงาน (Flowchart)" ที่แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานเพื่อ

  • เป็นเครื่องมือในการจัดลำดับความคิด
  • เห็นลำดับขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน

มาดูกันว่าสัญลักษณ์ต่างๆ มีความหมายว่าอย่างไรกันบ้างครับ
รูปภาพสัญลักษณ์ความหมายของสัญลักษณ์


Start / End
การเริ่มต้นหรือจบ Flowchart (Start หรือ End)


Process
การกระทำ (Process) ถูกใช้เพื่อแสดงที่การกระทำใน Flowchart

ตัวอย่างเช่น "กำหนด 1 ให้ X", "บันทึกการเปลี่ยนแปลง", "แทนที่ X ด้วยค่า 10"


Input / Output
ส่วนการนำเข้าข้อมูลหรือแสดงผลข้อมูล (Input / Output) 
ตัวอย่างเช่น "นำเข้าค่า X จากผู้ใช้", "แสดงผลข้อมูล X"
Decision
การตัดสินใจ (Decision)
นำมาใช้เพื่อพิจารณา True หรือ False เส้นการทำงานที่ออกจาก Decision จะมีสองเส้นเสมอ

เส้นแรกเมื่อเป็น True และอีกเส้นเมื่อเป็น False
Annotation
คำอธิบายประกอบ (Annotation) 
สัญลักษณ์นี้ถูกนำมาใช้เพื่อเขียนคอมเม้นต์ให้กับ Flowchart


Connector
จุดเชื่อมต่อ (Connector) 
ใช้รวมเส้นการทำงานของ Flowchart ให้ออกไปเหลือเพียงเส้นเดียว



Direction Flow
ทิศทางการทำงาน (Direction Flow)
ใช้เชื่อมต่อสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อแสดงการไหลการงาน

วิธีใช้เขียนผังงาน

หลักการนำสัญลักษณ์ Flowchart ต่างๆ มาเขียนผังงาน
  1. ผังงาน (Flowchart) ต้องมีจุดเริ่มต้น (Start) และจุดสิ้นสุด (End)
  2. สัญลักษณ์แต่ละรูปจะถูกเชื่อมต่อด้วยทิศทางการทำงาน (Direction Flow) เพื่อบอกว่าเมื่อทำงานนี้เสร็จต้องไปทำงานไหนต่อไป
  3. การทำงานจะต้องเริ่มต้นที่จุดเริ่มต้น (Start) และจบที่จุดสิ้นสุด (End) เท่านั้น

ตัวอย่างการใช้สัญลักษณ์ Flowchart ในการเขียนผังงานระบบ

ตัวอย่าง ผังงานการลาป่วย


อธิบายผังงานลาป่วย
  1. เริ่มต้น - Start
  2. ไปทำงาน - Process
  3. ฉันป่วยหรือไม่ ? - Decision [ถ้าไม่ป่วยก็จบเลย - False]
  4. ใช่ ฉันป่วย - True
  5. กรอกใบลาป่วย - Process
  6. ส่งอีเมล์ให้หัวหน้า - Process
  7. นอนพักผ่อน - Process
  8. จบ - End

ความหมายและความสำคัญของซอฟต์แวร์

ความหมายและความสำคัญของซอฟต์แวร์

 
ความหมายและความสำคัญของซอฟต์แวร์  
clip0031do-it ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึงชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนขึ้นด้วยภาษาของคอมพิวเตอร์ คำสั่งเหล่านี้เรียงกันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากที่ทราบมาแล้วว่าคอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่ง การทำงานพื้นฐานเป็นเพียงการกระทำกับข้อมูลที่เป็นตัวเลขฐานสอง ซึ่งใช้แทนข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ หรือแม้แต่เป็นเสียงพูดก็ได้  
clip0031การที่เราเห็นคอมพิวเตอร์ทำงานให้กับเราได้อย่างหลากหลาย เพราะมีซอฟต์แวร์ต่างๆ ช่วยสนับสนุนการทำงานเหล่านั้น เช่น ร้านค้าอาจใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดทำบัญชีที่ยุ่งยากซับซ้อน บริษัทขายตั๋วเครื่องบินใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในระบบการจองตั๋ว ธนาคารใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการจัดการข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย ครูและนักเรียนใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการจัดพิมพ์เอกสาร ดังนั้นซอฟต์แวร์จึงหมายรวมถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกประเภทที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้  
clip0031การที่คอมพิวเตอร์ดำเนินการได้อย่างไรและก่อให้เกิดประโยชน์ได้มากน้อยเพียงใดนั้นจึงขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์จึงเป็นส่วนสำคัญของระบบคอมพิวเตอร์ หากขาดซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถทำงานได้ ซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมาก ซอฟต์แวร์เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้ระบบสารสนเทศเป็นไปได้ตามที่ต้องการ  



พัฒนาการของการสื่อสารข้อมูล

พัฒนาการของการสื่อสารข้อมูล


พ.ศ.2380
















พ.ศ.2453
















พ.ศ.2487

















พ.ศ.2503






















พ.ศ.2513


















พ.ศ.2514





















พ.ศ. 2515
















พ.ศ.2519













พ.ศ.2526


















พ.ศ.2527
















พ.ศ.2533














พ.ศ.2535























พ.ศ.2541



















พ.ศ.2543




















พ.ศ.2545 - ปัจจุบัน











โทรเลข (telegram)

เป็นอุปกรณ์สื่อสารข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบแรกประดิษฐ์ขึ้นที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งใช้อุปกรณ์ทางไฟฟ้าส่งข้อความจาก
ที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในการส่ง
ข่าวสาร














เครื่องโทรพิมพ์(teleprinter)

เป็นอุปกรณ์สื่อสารข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบเดียวกับโทรเลข แต่สามารถพิมพ์ข้อความที่ได้รับลงบนกระดาษได้
โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อเทเลกซ์(TELEX) 
ส่วนในสหรัฐอเมริกา เรียกว่า TWX











มาร์ค คอมพิวเตอร์   (Mark I-Computer)



เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลก
สร้างโดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา 
ใช้หลอดสุญญากาศ ซึ่งใช้กำลังไฟฟ้าสูง 
จึงมีปัญหาเรื่องความร้อนและไส้หลอดขาดบ่อย










ดาวเทียมสื่อสารดวงแรกของสหรัฐอเมริกา
(first U.S. satellite)

ชื่อว่า เอคโค 1 (Echo 1) ถูกสร้างขึ้นเพื่อการทดสอบ
ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมเท่านั้น ซึ่งดาวเทียมเป็นโลหะ
มีรูปทรงกลม สามารถสะท้อนคลื่นไมโครเวฟ
ที่ส่งมาจากจุดใดจุดหนึ่งบนพื้นโลกไปยังอีกจุดหนึ่งได้
















เลเซอร์ (laser)

คิดค้นโดย ทีโอดอร์ ไมแมน (Theodore Maiman
ที่สถาบันวิจัย ฮิวจ์ (Hughes Research Laboratories) เป็นลำแสงขนานที่มีความเข้มสูง และมีความยาวคลื่น
ที่ตายตัว ซึ่งในช่วงแรกของการวิจัยมีแนวโน้มเพื่อนำไปใช้
ในทางการทหาร













อีเมล์ (e-mail)

มีการทดลองส่งครั้งแรกในเครือข่ายโดยเรย์ ทอมลินสัน (Ray Tomlinson)


















อีเทอร์เน็ต (Ethernet)

บริษัทซีร็อกซ์ (Xerox) ได้สร้างมาตรฐาน
สำหรับการสื่อสารข้อมูลบนเครือข่ายเฉพาะบริเวณ(LAN)ขึ้น
ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นเทคโนโลยีเครือข่าย
ที่เป็นมาตรฐานหลักของเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งหมด












พีซี (personal Computer : PC)

คิดค้นขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วไป สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกสบาย













อินเทอร์เน็ต (Internet)

เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่โยงใยกันทั่วโลก
โดยเครือข่ายดังกล่าวจะต้องมีมาตรฐาน การรับส่งข้อมูลระหว่างกันเป็นแบบเดียวกัน แม้คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมภายในเครือข่ายดังกล่าวอาจจะต่างชนิดหรือต่างขนาดกันก็สามารถสื่อสารกันได้














เซลลูลาร์ (cellular)

ระบบโทรศัพท์ไร้สายแบบเซลลูลาร์ได้เข้ามาแทนที่ระบบโทรศัพท์ไร้สายแบบใช้คลื่นวิทยุ














ปรับปรุงระบบอาร์พาเน็ต (ARPANET Reorganization)


เครือข่ายอาร์พาเน็ตถูกยกเลิกและถูกแทนที่ด้วยระบบเครือข่ายไร้สายระดับชาติ












เวิลด์ไวด์เว็บ (World wide Web)


เป็นการบริการข้อมูลแบบไฮเปอร์เท็กซ์ (hypertext) 
ที่ประกอบไปด้วยเอกสารจำนวนมากที่มีการเชื่อมโยงกัน




















โทรทัศน์แบบ HDTV

เป็นโทรทัศน์ที่มีความละเอียดสูง ให้ภาพคมชัดมากกว่าปกติ เริ่มจำหน่ายครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา


















ระบบสื่อสารแบบไร้สาย (Wireless technology)


ระบบสื่อสารแบบไร้สายเริ่มเข้ามามีส่วนแบ่ง
ทางการตลาดมากขึ้น
















ระบบสื่อสารแบบบรอดแบนด์ (broadband access)

บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยี 
Asymmetric Digital Subscriber Line (ADSL) 
นั่นคือ การสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงบนข่ายสายทองแดง
หรือคู่สายโทรศัพท์